เช็คลิสต์ ปวดหัวแบบไหน ใช่ไมเกรน
![](http://cosmeticsurgerybangkok.net/sites/default/files/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C%20%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%20%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%99.jpg)
หลายคนมักจะมีความสับสนระหว่างอาการปวดหัวทั่วไป กับ อาการปวดหัวไมเกรน ว่าทั้งสองอาการนี้นั้นอาการปวดหัวที่เป็นอยู่นั้นเป็นอย่างไรกันแน่เพราะ การปวดหัวแบบไมเกรน คืออาการปวดหัว แต่เป็นการปวดหัวในลักษณะเรื้อรัง วันนี้เราลองมาเช็คลิสต์กันดูค่ะว่า อาการปวดที่เราเป็นนั้นใช่ไมเกรนหรือเปล่า
1.ลักษณะการปวด
หากเป็นการปวดหัว แบบ ไมเกรน ลักษณะของการปวดหัวจะเป็นการปวดแบบตุบๆเป็นระยะหรือเป็นจังหวัด และมีการปวดศีรษะเพียงข้างเดียว ความรุนแรงของการปวดหัว จะเริ่มจากรุนแรงปานกลางไปจนถึงรุนแรงมาก
2.อาการนำ
ก่อนการปวดศีรษะแบบไมเกรน มักจะมีอาการเตือนล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็น การเห็นแสงไฟระยิบระยับ การเห็นแสงไฟวูบวาบ การเห็นภาพเบลอ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดก่อนการปวดหัวในแบบไมเกรนก่อน ประมาณ 10 ถึง 30 นาที
3.อาการร่วม
โดยมากการปวดหัวโดยทั่วไป มักจะไม่มีอาการต่างๆร่วมซึ่งจะแตกต่างกับการปวดหัวแบบไมเกรนนั่นก็คือ การปวดหัวไมเกรน จะมีอาการต่างๆ ต่อไปนี้ร่วมด้วย อาทิ อาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือการเห็นภาพเบลอ ปวดเบ้าตาต่างๆ
4.ลักษณะการรักษา
การปวดหัวโดยทั่วไป เมื่อทานยาพาราเซตามอลและพักผ่อน ก็จะหายหรือบรรเทาอาการลงแต่สำหรับการปวดไมเกรน ยาพารา ไม่สามารถบรรเทาอาการได้เท่าไหร่นัก จะต้องใช้ยาในกลุ่มที่รักษาอาการปวดไมเกรนโดยเฉพาะ นอกจากนี้ จะต้องอาศัยการประคบเย็น หรือการปรับสภาพสิ่งแวดล้อมในบริเวณที่พักผ่อน เพื่อช่วยบรรเทาอาการ ซึ่งในบางรายที่มีอาการหนักมาก อาจจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อรักษาด้วยการฉีดยาเลยก็เป็นได้
ซึ่งหากเราสังเหตุอาการปวดหัวโดยทั่วไปกับการปวดหัวแบบไมเกรนนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง ใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองปวดหัวธรรมดาหรือปวดหัวไมเกรน ลองเช็คลิสต์ตามรายการนี้ดูนะคะว่าเราปวดหัวแบบใด จะได้ดูแลและรักษาอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องนั่นเองค่ะ หากผู้อ่านท่านใดมีเป็นไมเกรน และต้องการเข้ารับการรักษา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ H8 Clinic ที่รักษาอาการไมเกรนได้อย่างตรงจุด ถึงต้นตอของสาเหตุ รวมถึงสามารถรักษาให้หายขาดได้ในอนาคตค่ะ